Article: Rolex GMT-Master เครื่องบอกเวลาและ "ประตูมิติ" ที่เชื่อมโยงเราเข้ากับทุกเขตเวลาบนโลกใบนี้

Rolex GMT-Master เครื่องบอกเวลาและ "ประตูมิติ" ที่เชื่อมโยงเราเข้ากับทุกเขตเวลาบนโลกใบนี้
นาฬิการุ่นหนึ่งที่ผูกพันกับผู้คนที่เดินทางรอบโลกมาตลอด 70 ปีอย่างกลมกลืนที่สุด นั่นคือ Rolex GMT-Master
นาฬิกาที่ไม่ได้แค่บอกเวลา… แต่มันบอก “โลกที่คุณอยู่” พร้อมกับโลกอีกใบที่คุณจากมา
เป็นนาฬิกาสำหรับนักบิน แต่กลับโด่งดังในหมู่นักธุรกิจ นักแสดง ดาราฮอลลีวูด ไปจนถึงผู้นำโลก
จุดเริ่มต้น: GMT-Master รุ่นบุกเบิก
Rolex GMT-Master REF. 6542 (1954-1959)
นี่คือจุดกำเนิดของ GMT-Master ทั้งตระกูล เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Rolex และสายการบิน Pan Am เพราะยุค 1950s การบินข้ามทวีปเริ่มบูม นักบินต้องเจอปัญหาคำนวณเวลา “ท้องถิ่น” และ “GMT” ไปพร้อมกัน Rolex จึงออกแบบนาฬิกาที่บอกได้ 2 โซนเวลาในเรือนเดียว
-
ขอบ Bakelite กับสี Pepsi แดงน้ำเงิน (แดงคือเวลากลางวัน น้ำเงินคือเวลากลางคืน)
-
ฝังตัวเลขเรืองแสงจาก Radium นวัตกรรมล้ำสมัย
-
Bakelite แตกง่าย และ Radium อันตรายต่อสุขภาพ จน Rolex ต้องเปลี่ยนเป็น ขอบอะลูมิเนียม แต่ถึงจะอันตรายก็กลายเป็นของหายากให้ตามล่า
-
กลายเป็นไอคอนิกอย่างแท้จริง เมื่อ REF. 6542 ปรากฏอยู่บนข้อมือของ Pussy Galore ในภาพยนตร์ James Bond: Goldfinger (1964)
สิ่งที่ทำให้ 6542 ยิ่งหายากคือ “ความบังเอิญ” เช่น
-
Tropical Dial : หน้าปัดดำซีดกลายเป็นน้ำตาลเพราะแดด นักสะสมยอมจ่าย เพราะมันคือเอกลักษณ์เฉพาะเรือน
- Gilt Dia l : ตัวอักษรทองบนพื้นดำที่ให้ความรู้สึกวินเทจแท้
![]() REF. 6542 |
![]() REF. 6542 Tropical Dial |
![]() REF. 6542 Gilt Dial |
ยุคสร้างชื่อ
Rolex GMT-Master REF. 1675 (1959-1980)
“ภาพจำของ GMT” ที่หลายคนนึกถึงทันทีเมื่อพูดถึงชื่อรุ่น นิยมสูงจนอยู่ในตลาดยาวนานเกือบ 20 ปี
จุดเด่น
-
รุ่นแรกที่มี เข็ม 24 ชั่วโมงหัวลูกศรใหญ่ (Large Arrow) อ่านโซนที่สองง่ายขึ้น
-
ขอบ Pepsi กลายเป็น ไอคอนตลอดกาล
-
เคยอยู่บนข้อมือของ Che Guevara และ Clint Eastwood มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของยุคหลังสงครามโลกที่คนเริ่มมองหาหนทางของชีวิต
วัสดุ
-
Steel : รุ่นเพื่อนักบิน Pan Am ขนานแท้
-
Two-Tone Steel/Gold : ดูสปอร์ตและหรูขึ้น
-
Yellow Gold : บ่งบอก “สถานะ” มาพร้อม Nipple Dial หลักชั่วโมงนูนเป็นเม็ดทองสุดคลาสสิก ซึ่งวันนี้กลายเป็น Rare Dial สำหรับนักสะสม
ความผิดพลาดที่กลายเป็นเสน่ห์
-
Spider Dial : หน้าแลคเกอร์แตกเป็นเส้น ๆ จากอายุและความร้อน ตอนแรกถือเป็นตำหนิ แต่วันนี้คือเสน่ห์วินเทจที่บอกว่าทุกเรือน “ไม่เหมือนใคร”
![]() REF. 1675 |
![]() REF. 1675 Nipple Dial |
![]() REF. 1675 Spider Dial |
การพัฒนาสู่ยุคใหม่
Rolex GMT-Master REF. 16750 (1980-1988)
นี่คือสะพานเชื่อมระหว่างวินเทจกับสมัยใหม่ ใช้ Cal. 3075 ที่มี Quickset Date หมุนวันที่ได้โดยตรง ไม่ต้องหมุนเข็มชั่วโมงวนทั้งรอบ
ความน่าสนใจ
-
รุ่นแรกที่ได้ กันน้ำ 100 เมตร จากเดิม 50 เมตร
-
ผลิตหน้าปัดทั้งแบบ Matte Dial ตัวอักษรขาวบนพื้นดำด้าน และ Glossy Dial ดำเงาหลักพรายน้ำแบบมีเบ้าจาก White Gold นักสะสมต่างมีแฟนคลับของแต่ละแบบ
ของหายาก
-
Tropical Dial สีเฟดกลายเป็นน้ำตาลทองสวย
-
บางเรือนมี Patina ที่เปลี่ยนเป็นครีมหรือส้ม ทำให้มีเสน่ห์เฉพาะ
![]() REF. 16750 Matte Dial |
![]() REF. 16750 Glossy Dial |
การเปลี่ยนผ่านสู่ GMT-Master II
Rolex GMT-Master II REF. 16760 “Fat Lady” (1983-1988)
นี่คือ GMT-Master II รุ่นแรก และได้ฉายา “Fat Lady” เพราะตัวเรือนหนากว่ารุ่นก่อน เพื่อรองรับกลไกใหม่ Cal. 3085
ความเปลี่ยนแปลง
-
ครั้งแรกที่สามารถ ปรับเข็มชั่วโมงอิสระ ได้ โดยเข็ม 24 ชั่วโมงยังคงบอกเวลา GMT แต่เข็มชั่วโมงหลักสามารถขยับแยกทีละชั่วโมงเมื่อข้ามโซนเวลา สะดวกกว่ายุคก่อนมากที่เข็ม GMT ถูก “ล็อค” กับเข็มชั่วโมงเสมอ
-
ทำให้สามารถอ่าน “3 โซนเวลา” ได้พร้อมกันจาก เข็มหลัก, เข็ม GMT, และขอบเบเซล สุดแท้แต่ความถนัดว่าจะตั้งเวลาท้องถิ่นหรือไทม์โซนอื่นผ่านอันไหน
-
ผลิตเฉพาะ Steel เท่านั้น
-
มาพร้อมขอบ Coke แดงดำ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ GMT
![]() REF. 16760 Fat Lady |
GMT-Master II ยุคคลาสสิก
Rolex GMT-Master II REF. 16710 (1989-2007)
นี่คือ GMT ที่อยู่ยาวกว่า 15 ปี และได้รับความนิยมมหาศาล
จุดเด่น
-
ตัวเรือนบางลงกว่า Fat Lady ใส่สบาย
-
ขอบเบเซลมีให้เลือกทั้ง Pepsi, Coke และ All-Black
หน้าปัดพิเศษที่สะสมได้
-
Stick Dial : เลข “II” บนหน้าปัดเขียนแบบเส้นตรงเล็ก ไม่ใช่ตัวโรมันเต็ม ๆ
-
Swiss Only / Swiss Made T<25 : เป็นยุคสุดท้ายของ Swiss Only และ T<25 ที่เริ่มมีประปราย เช่นเดียวกับ Swiss Made ที่เริ่มมีใช้ในบางเรือน
![]() REF. 16710 All-Black |
![]() REF. 16710 Pepsi |
![]() REF. 16710 Coke |
เข้าสู่ยุค Cerachrom
Rolex GMT-Master II REF. 116710LN (2007-2018)
GMT รุ่นแรกที่ได้ขอบ Cerachrom หรือขอบเซรามิก สีดำล้วน แข็งแรง ทนรอยขีด และสีไม่ซีดเหมือนอะลูมิเนียม
สิ่งใหม่ ๆ
-
ตัวเรือน Oyster ที่แข็งแรงขึ้นพร้อม Crown Guard หนา
-
สาย Oyster พร้อม Oysterlock Clasp ที่ปรับได้สะดวก
-
เข็มเขียวตัดกับขอบดำ กลายเป็นลุคโมเดิร์นสุดเท่ และตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งสีเขียวของ Rolex
-
เข้าสู่ยุค Swiss Made อย่างแท้จริง
![]() |
Rolex GMT-Master II REF. 126710BLRO “Pepsi” (2018-ปัจจุบัน)
การกลับมาของขอบ Pepsi ในเวอร์ชันเซรามิก ถือเป็นการ “คืนชีพตำนาน” หลังจากหายไปนาน
-
มาพร้อมสาย Jubilee ทำให้ดูย้อนยุควินเทจและมาดที่นุ่มนวลขึ้น
-
ใช้เครื่อง Cal. 3285 ที่มี Chronergy escapement กับพลังงานสำรองที่ระดับ 70 ชั่วโมง
-
ขอบสองสีเซรามิก (แดงน้ำเงิน) คือสิ่งที่แฟน ๆ เฝ้ารอ
![]() |
Rolex GMT-Master II REF. 126710BLNR “Batman / Batgirl” (2019-ปัจจุบัน)
-
ขอบดำน้ำเงิน สาย Oyster ได้ฉายา Batman แต่ถ้าสาย Jubilee เป็น Batgirl เพราะนุ่มนวลกว่า
-
กลายเป็นรุ่นฮอตสุดๆ ในตลาด เพราะโทนสีน้ำเงินดำดูเรียบแต่เท่ ใส่ได้ทุกโอกาส
![]() REF. 126710BLNR Batgirl |
![]() REF. 126710BLNR Batman |
Rolex GMT-Master II REF. 126720VTNR “Sprite / Lefty” (2022-ปัจจุบัน)
-
นี่คือ GMT รุ่นแรกที่ทำ เม็ดมะยมและวันที่อยู่ฝั่งซ้าย
-
ขอบเขียวดำ ได้ฉายา Sprite หรือ Starbucks
-
ตอบโจทย์ทั้งคนถนัดซ้ายและนักสะสมที่ชอบของแปลกหายาก
|
![]() |
Rolex GMT-Master II REF. 126710GRNR, 126713GRNR และ 126718GRNR “Bruce Wayne” (2023-ปัจจุบัน)
-
โทนใหม่ ดำ-ทอง (GRNR) ดูหรูแบบสปอร์ต
-
มีทั้ง Rolesor (Steel + Yellow Gold) และ Full Gold ทั้ง Yellow, White, และ Everose หรือ Steel แบบที่คุ้นเคย
- ได้ฉายา “Bruce Wayne” เพราะลุคดำ-ทองดุดันแบบ Batman เวอร์ชันผู้ใหญ่
![]() REF. 126710GRNR |
![]() REF. 126713GRNR |
![]() REF. 126718GRNR |
กว่า 70 ปีที่ผ่านไป Rolex GMT-Master และ GMT-Master II ไม่ได้เป็นแค่นาฬิกาสำหรับนักบินอีกต่อไป แต่มันคือ สัญลักษณ์ของการเดินทาง การเปลี่ยนผ่านยุคสมัย และการพัฒนาเทคโนโลยีของ Rolex
-
จากขอบ Bakelite เปราะบางสู่ Cerachrom ทนทาน
-
จากเข็ม GMT ที่ “ล็อค” กับเข็มชั่วโมงสู่เข็มชั่วโมงที่ปรับอิสระได้
-
จากเครื่องวินเทจสู่กลไก Chronergy ที่ให้พลังงานดียิ่งขึ้นและทนทาน
และที่สำคัญ ทุกความผิดพลาดในอดีตไม่ว่าจะเป็น Tropical, Spider Dial, Stick Dial กลับกลายเป็น เรื่องราวอันมีเสน่ห์ที่นักสะสมให้มูลค่า จนทำให้ GMT-Master ไม่ได้เป็นเพียงนาฬิกา แต่คือหน้าประวัติศาสตร์ที่สวมใส่ได้
GMT-Master ไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่มันเป็นเพื่อนเดินทาง เป็นความทรงจำของ “เวลาที่คุณเคยอยู่ที่นั่น”
เป็นบทเรียนของนักเดินทาง ที่รู้ว่าทุกนาทีในชีวิต… “ล้ำค่าเสมอ”
ถ้าคุณอยากได้เพื่อนเดินทางดีๆ แบบนี้?
Pixiu Watch คือร้านนาฬิกามือสองที่คัดเลือกนาฬิกาจากหลากหลายแบรนด์เนมชั้นนำของโลก รวมทั้ง Rolex รุ่นดังยอดนิยมแม้แต่ GMT-Master ก็เช่นกัน สามารถติดตามนาฬิกามากมายเพื่อเป็นเจ้าของได้เพียง “กดที่นี่”
ถ้ามีนาฬิกาแบรนด์หรูอยากขายหรือเปลี่ยนเป็นเงินสด
Pixiu Watch “ให้ราคาดีที่สุด” เพราะเรา “รับซื้อนาฬิกา, รับซื้อนาฬิกามือสอง, รับซื้อนาฬิกาแบรนด์เนม” ด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม ให้ทุกการขายของคุณเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
ถ้าคุณอยาก “ขายนาฬิกาแบรนด์เนมของแท้” หรือ “ขายนาฬิกามือสองออนไลน์”
ให้เราดูแลคุณแบบมืออาชีพผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
ติดต่อ Pixiu Watch เพื่อรับคำปรึกษาและประเมินราคาฟรี!
-
โทรศัพท์ : 096-939-9292, 083-713-9292
-
Line : @PixiuWatch (คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน)
-
Facebook Page : Pixiu Watch (คลิกเพื่อเข้าสู่เพจ)
-
Website : www.pixiuwatch.com (คลิกเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์)
สรุปไทม์ไลน์สั้น ๆ
-
1955 : เปิดตัวรุ่นแรก REF. 6542 กับขอบ Bakelite “Pepsi” นาฬิกานักบิน
-
1959 - 1980 : REF. 1675 รุ่นคลาสสิกสุดฮิตใช้ยาวนาน
-
1981 - 1988 : REF. 16750 เพิ่ม Quick‑set Date นิยมในหมู่นักสะสม
-
1983 - 1988 : REF. 16760 “Fat Lady” รุ่นแรกของ GMT‑Master II
-
1989 - 2007 : REF. 16710/16700 ตัวเลือกขอบหลากหลาย
-
2007 - 2019 : Ceramic Bezel, Maxi Dial และ Triplock Crown ใน 116710 ซีรีส์
-
2018 - ปัจจุบัน : รุ่น 126710BLRO/BLNR กลไกใหม่ ขอบ Pepsi/Batman บน Jubilee
- 2024 - ปัจจุบัน : เปิดตัว REF. 126710GRNR “Bruce Wayne” ขอบเทาดำ, ดีไซน์ใหม่แต่คลาสสิก
ตารางเปรียบเทียบรุ่นหลัก
| รุ่น | ปีผลิต | ขนาด | กลไก | ขอบ Bezel |
| Ref. 6542 | 1955 - 1959 | ~38 มม. | Cal.1036/1066 | Bakelite Pepsi |
| Ref. 1675 | 1959 - 1980 | 40 มม. | Cal.1565, Cal. 1575 | Aluminium Pepsi |
| Ref. 16750 | 1981 - 1988 | 40 มม. |
Cal. 3075 |
Pepsi/Black |
| Ref. 16760 Fat Lady | 1983 - 1988 | ~40 ×12 มม. | Cal. 3085 | Coke |
| Ref. 16710/16700 | 1989 - 2007 | 40 มม. | Cal. 3185, Cal. 3186 | Pepsi/Coke/Black |
| Ref. 116710 ซีรีส์ | 2007 - 2019 | 40 มม. | Cal. 3186 | Ceramic LN/BLNR |
| Ref. 126710BLRO/BLNR | 2018 - ปัจจุบัน | 40 มม. | Cal. 3285 | Pepsi/Batman |
| Ref. 126710GRNR | 2024 - ปัจจุบัน | 40 มม. | Cal. 3285 | Grey‑Black Cerachrom |
แหล่งอ้างอิง
Revolution Watch – The Rolex GMT-Master’s “Coke” 70-Year Journey
- https://revolutionwatch.com
Monochrome Watches – History of the Rolex GMT-Master and GMT-Master II (1955–2024)
- https://monochrome-watches.com
Bob’s Watches – Rolex GMT-Master History Overview
- https://www.bobswatches.com
Rolex Newsroom – GMT-Master II Overview and Innovations
- https://newsroom.rolex.com
Rolex.com – GMT-Master II Cerachrom Bezel Details
- https://www.rolex.com/watches
Wikipedia – Rolex GMT-Master II
- https://en.wikipedia.org
GQ – “You Know Rolex Makes Something Called a 'GMT.'…”
- https://www.gq.com
Business Insider – Value Increase of GMT-Master II “Pepsi”
- https://www.businessinsider.com
Bob’s Watches – Vintage of the Week: Rolex GMT-Master 1675
- https://www.bobswatches.com
Loupe This – Auction: Rolex GMT-Master 6542 Bakelite Bezel, Gilt Dial
- https://loupethis.com





















