Audemars Piguet Millenary : The Milky Way ทางช้างเผือกแห่งจักรวาลเวลา

     หลังจากทำความรู้จักกับ Royal Oak และ Offshore กันไปแล้ว วันนี้ขอแนะนำนาฬิกาที่เป็น 1 ใน 3 คอลเลคชันหลักของ Audemars Piguet ที่มีมายาวนานเคียงคู่กับ Royal Oak และ Jules Audemars ครับ นาฬิกาในระดับขึ้นหิ้งของนักสะสมสายงานศิลป์ นาฬิกาที่มีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ในรูปทรงรีไม่พึ่งพาแปดเหลี่ยมแต่กลับแสดงออกถึง DNA ของแบรนด์ได้ชัดที่สุดจนจัดอยู่ในคอลเลคชันหลักจนถึงปัจจุบัน

หลายคนอาจจะรู้ตั้งแต่ตัวเรือนทรงรีแล้วว่า คอลเลคชันนี้คือ Millenary ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 ตามหลัง The Beast ไม่นาน กับการฉีกกรอบของนาฬิกาทรงรีที่มักจะเป็นของนาฬิกาเดรสแบบพลิกโลกจนงงไปตามๆ กัน Millenary ได้รับการตอบรับที่ดีในระดับโลกครับ ส่วนในบ้านเราจะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่เสพนาฬิกาในเชิงศิลปวัตถุ วันนี้เรามาย้อนดู Millenary ในวันวานกันครับ เปิดใจกว้างๆ ลืมตัวเรือนแปดเหลี่ยมไปก่อน แล้วคุณจะพบโลกใหม่อีกใบที่งดงามยิ่งครับ

เมื่อแรกเห็น Millenary ทำให้อดคิดถึงภาพทางช้างเผือกไม่ได้จริงๆ ครับ และด้วยภาพมโนนั้นทำให้ First Impression ของผมออกมาเป็น “มันเป็นความงามระดับจักรวาลชัดๆ!!!” Millenary 4101 Ref. 15350 ทำออกมาในหลายวัสดุ แต่ที่ผมได้เห็นครั้งแรกและจะเล่าสู่กันฟังนี้เป็นตัวสเตนเลส สตีลครับ

จักรวาลทรงรีที่สวยงามนี้มีขนาดความกว้าง 47 มม. แต่ด้วยรูปทรงจึงไม่ต้องกังวลเรื่องตัวเรือนกางไม่สวยครับ อีกทั้งการเล่นระดับของตัวเรือนและขานาฬิกาสองชั้น ยิ่งเพิ่มมิติเชิงลึกเพื่อเป็นฐานรับการออกแบบเครื่องหน้าสวยๆ ซึ่งเห็นได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ในทั้งด้านหน้าและหลัง

ความสวยที่แท้จริงของ Millenery อยู่ที่หน้าปัดที่จัดวางออกเป็น 3 ระดับในตัวเรือนแบบ Skeleton สามารถมองเห็นทั้งเครื่องหน้าและกลไกได้ชัดเจน แข่งกันอวดความสวยด้วยการจัดแต่งแบบ Cote de Geneve และลายซาตินที่ไม่มีใครเทียบได้ ดูเรียบง่ายแต่รับกับตัวเรือนอย่างเหมาะสม ซึ่งลายขัดนี้เกิดจากการใช้หัวขัดเพชรขึ้นลาย

ชุด Balance Wheel และ Escapement สวยๆ ถูกโชว์ให้เห็นบนสะพานที่ใช้สีอัลทราไซท์และลายขัดเช่นเดียวกับพื้นหน้าพร้อมทับทิมประกอบที่วางในเบ้าทอง (Gold Chatons) ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ซึ่งตรงตำแหน่งนี้หากเป็นรุ่นที่มีกลไกซับซ้อนแบบอื่นเราก็จะได้เห็นชุดจักรที่สวยงามแตกต่างกันไปครับ (ยิ่งกลไกซับซ้อนชุดจักรยิ่งอลังการ สวยสุดๆ) 

ชุดบอกเวลาแบบ Off-centre ในวัสดุ Rose Gold พื้นดำแกะลายกิโยเช่แบบร่องแผ่นเสียง ประดับด้วยเลขโรมันเล่นระดับใหญ่เล็กไปตามโค้งเพื่อให้เข้ากับวงรีของตัวเรือน และที่ตำแหน่ง 7 นาฬิกาของวงเวลาหลักนี้เอง ที่วงวินาทีย่อยถูกวางตัวอยู่เงียบๆ พร้อมสเกลเวลาแบบรางรถไฟแบบคลาสสิค ชุดเข็มบอกเวลาทำจาก Rose Gold ขึ้นเงาสวยๆ ในทรง Alpha ซึ่งเครื่องหน้าทั้งหมดถูกจัดวางเล่นระดับสูงต่ำแบบชัดเจนไม่ได้ใช้การเล่นสีหลอกตาอย่างที่เห็นในรูป ยิ่งทำให้หน้าแบบ Skeleton ดูน่าสนใจขึ้นมากๆ และถือเป็นส่วนผสมหลักแห่งความงามของจักรวาลนี้ที่ผมกล่าวถึงนั่นเองครับ

กลไกของ Millenary 4101 Ref. 15350ST นี้ใช้เครื่อง In-house ของ Ap เองในรหัส CAL.4101 ซึ่งมีชิ้นส่วนมากถึง 284 ชิ้นและใช้ทับทิมในการประกอบร่วมด้วย 34 เม็ดซึ่งถือว่าเยอะมากในกลไกปัจจุบัน สำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง ทุกชิ้นส่วนผ่านการขัดขึ้นลายอย่างประณีต ปกติขนาดในเครื่องฝาหลังทึบ AP ก็ไม่ปล่อยให้เครื่องไร้การขัดแต่งอยู่แล้ว ยิ่งโชว์ชัดๆ แบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแถมแผ่นโรเตอร์ทอง 22K ที่ผ่านการแกะลายนูนต่ำอวดตัวด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มอรรถรสให้กับการรับชมความงามของตัวเครื่องขึ้นไปอีกครับ

ทั้งหมดนี้ของ Millenary แม้จะอยู่ในตัวเรือนทรงรีที่ต่างจากแปดเหลี่ยมอย่างสิ้นเชิง แต่ ด้วยดีไซน์ งานขัดแต่งเหลี่ยมมุม หรือ Mood and Tone ที่นาฬิกาแสดงออกมา เมื่อเห็นเราต่างรับรู้ได้ว่าน่าจะเป็นนาฬิกาจาก AP แน่นอน  หรือจาก Royal Oak นาฬิกาสปอร์ตสเตนเลส สตีลที่กล้าตั้งราคาเทียบเท่านาฬิกาทองคำโดยอาศัยการออกแบบและงานฝีมือเข้ามาทดแทน จนกระทั่ง Offshore ที่ฉีกแม้กระทั่งกรอบของตัวเองจาก Royal Oak และจากกรอบของนาฬิกาสปอร์ตที่ควรใช้เพียงวัสดุสเตนเลส สตีล เป็นการจับคู่วัสดุทุกๆ อย่างที่เป็นไปได้ รวมกับการใช้สีหลากหลายและฟังก์ชันที่แปลกใหม่สำหรับนาฬิกาสปอร์ต ดังนั้น DNA ของ Audemars Piguet จึงไม่ใช่นาฬิกาทรงแปดเหลี่ยม แต่คือนาฬิกาชั้นสูงในรูปแบบที่หลากหลาย ด้วยงานฝีมือและความเชี่ยวชาญขั้นสูง ผ่านการออกแบบที่ไร้กรอบแต่ยังเป็นตัวของตัวเองสูงต่างหากครับ