Audemars Piguet Royal Oak : The Best Of The Best Forever
What’s happen!!!?
ทุกวันนี้นาฬิกาจากสเตนเลส สตีลได้การยอมรับจนมีราคาขายอาจจะมากกว่านาฬิกาจากวัสดุล้ำค่าอย่างทองด้วยซ้ำ ซึ่งถ้ามองตามเป็นจริงยังไงเสียสเตนเลสย่อมไม่มีทางเทียบเท่าหรือชนะทองได้เลย ถ้าจะมองหาต้นตอที่ทำให้นาฬิกาจากสเตนเลสยกระดับขึ้นมาได้ขนาดนี้ ผู้ต้องหาหลักที่ต้องชี้นิ้วไปต้องย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 50 ปีแล้วครับ กลับไปในยุค 70 ที่เหล่านาฬิกากลไกทั้งหลายโดนนาฬิกาควอร์ทผู้มีพลังงานไฟฟ้าในมือจับช็อตไฟจนคางเหลืองปางตายไปทั้งวงการ แต่แล้วจู่ๆ ได้มีนาฬิกาสปอร์ตหน้าตาแปลกทำจากสเตนเลส สตีลออกมาเปิดตัวในงาน Basel ปี 1972 แถมตั้งราคาขายในระดับนาฬิกาหรูจากทองและกลไกขั้นเทพซะเลย นาฬิกาเรือนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน Audemars Piguet Royal Oak นั่นเองครับผนึกกำลังด้วยงานฝีมือและประสบการณ์และความสร้างสรรค์
อย่างที่บอกครับในยุค 70 ผลกระทบจากนาฬิกาควอร์ทนั้นสูงมาก ผู้ผลิตล้มหายตายจากไปเยอะและที่ใกล้ฝั่งก็อีกมาก AP ก็ไม่ต่างกันครับ แต่ด้วยความสามารถของ Georges Golay ผู้บริหารในยุคนั้นที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ รวบรวมข้อมูลทางการตลาดจากทั่วโลกและพบว่าที่อิตาลี มีกระแสอยากได้นาฬิกาแบบที่ไม่เคยพบเห็นทำจากสตีล เขาจึงมีไอเดียจะทำนาฬิกาสปอร์ตขึ้น และแน่ละครับหากพูดถึงการออกแบบที่แตกต่างในยุคนั้นเขาต้องขอความช่วยเหลือจาก Gerald Genta นั่นเอง
เพียงข้ามคืนก็เพียงพอสำหรับผู้มากฝีมือ
หลังคุณตา Georges คิดได้แล้ว เขารีบติดต่อ Genta ทันที “โอย จำได้สิ มันบอกผมตอนบ่ายสี่ พล่ามนู่นนั่นนี่แล้วก็บอกต้องเสร็จภายในพรุ่งนี้เช้า” ปู่ Genta บ่นให้ฟัง “ชิชะ ไม่อยากจะเหลา ตอนบอกขอพรุ่งนี้เช้าผมละอยากจะขิงกลับว่านานไป เขี่ยๆ แปปเดียวก็เสร็จ แต่เดี๋ยวหาว่าง่ายแล้วจ่ายน้อย ผมเลยทำเป็นฝืนรับไปงั้นๆ แหละ 5555 รับเต็มๆ” และหลังจากถกกันเรียบร้อย Genta ได้ร่างแบบขึ้นมานำเสนอด้วยนาฬิกาที่สวยมากๆ ครับ แม้จะเป็นเพียงรูปวาดก็ได้ใจแล้วเต็มๆ
นาฬิกาได้แรงบันดาลใจจากหมวกเหล็กดำน้ำในสมัยก่อน ขอบบาเซิลแปดเหลี่ยมจับคู่สกรูหกเหลี่ยมจึงเกิดขึ้นในวันนั้น หน้าปัดสีน้ำเงินแกะลายตารางเล็กหรือ Petit Tapisserie อันเปรียบเหมือนผืนทะเล ส่วนกลไกนั้น Genta ได้ออกแบบให้ใช้ทองคำขาวแต่ด้วยความยากและงบประมาณที่จะสูงไปจึงต้องยกเลิกและทดแทนด้วยใช้การขัดแต่งด้วยช่างชั้นเอกจนได้ออกมาเป็น CAL.2121 ที่โด่งดังและใช้มายาวนานหลังจากนั้น
กลไกล้ำค่าจากเทพทั้งสามแห่งโลกกาลเวลา
CAL.2121 นั้นปรับปรุงขึ้นจาก CAL.2120 ซึ่งเป็นกลไกที่ Holy Trinity แห่งจักรวาลเวลาประกอบด้วย Audemars Piguet, Patek Philippe และ Vacheron Constantin ต้องการเครื่องที่มีขนาดบางแต่อัดแน่นด้วยกลไกขั้นสูง ทั้งสามระดมทุนและว่าจ้างให้ Jaeger-Lecoultre ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกลไกเป็นผู้จัดการก่อนเทพทั้งสามจะนำไปปรับปรุงต่อในแบบตัวเอง จนออกมาเป็นเครื่อง Ultra-Thin ที่เราๆ รู้จักกันดีของทั้งสามแบรนด์นี้นั่นเองครับ
ได้ชื่อ Royal Oak เพราะเกิดจากทะเล
ด้วยแรงบันดาลใจจากหมวกดำน้ำ ปู่ Genta จึงยืนยันว่าชื่อต้องเกี่ยวกับทะเลด้วย และในยุคสมัยก่อนพูดถึงทะเลก็ต้องนึกถึงกองเรืออันโด่งดังของอังกฤษ ชื่อกองเรือ Royal Oak แห่งราชนาวีอังกฤษจึงถูกนำมาใช้กับเรือธงลำนี้จาก AP
ทุกความล้ำค่าต้องการ “เวลา”
เมื่อทุกอย่างพร้อมและเปิดตัวในงานด้วยราคาอลังการที่ 3,300 ฟรังก์สวิส แพงกว่านาฬิกาทองจาก Patek ทิ้งขาด 10 ช่วงตัวจากราคาของ Rolex Submariner แพงกว่านาฬิกาสตีลเรือนไหนในประวัติศาสตร์ โลกของคนรักเวลาต่างแตกตื่นในตระหนักได้ว่าการออกแบบและคุณภาพของนาฬิกาสำคัญกว่าวัสดุที่นำมาใช้
นาฬิกาได้ทั้งการยอมรับและต่อต้าน อีกทั้งด้วยราคาที่สูงแต่ใช้วัสดุที่ไม่ได้ล้ำค่าเช่นทอง นาฬิกาที่ถือเป็นไพ่ใบสุดท้ายออกขาย 1,000 เรือนในล็อตแรก ขายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินมหาศาลที่ทุ่มไปแบบหมดหน้าตัก AP เตรียมเป็นอีกหนึ่งรายชื่อแทงจำหน่ายออกจากสารบบเวลาได้เลยครับ
“ทุกคุณค่าต่างต้องการเวลาในการพิสูจน์” เป็นความจริงอีกครั้ง หลังผ่านไปเกือบปี Royal Oak เริ่มแผลงฤทธิ์ จากปากต่อปากของเหล่านักสะสมและผู้นำเทรนด์ที่พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่านาฬิกาเรือนนี้พิเศษมากและคุ้มค่ากับราคา ปีกว่าๆ กับล็อตแรกและจากนั้นซีรีส์ต่อๆ มาจึงถูกผลิตตามคำสั่งซื้อที่มากมายจน Royal Oak เป็นดั่งเสาเอกประจำบ้าน AP จนทุกวันนี้ครับ
บทสรุปแห่งตำนานที่ยังมีลมหายใจและใครๆ ต่างใฝ่หา
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น Royal Oak ในล็อตแรกหรือ A Series จึงกลายเป็นของหายากที่เหล่านักสะสมต่างควานหา เพราะเป็นล็อตเดียวที่สัญลักษณ์ “AP” ถูกวางที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ดังนั้นราคาในปัจจุบันจึงไม่ต้องพูดถึงครับ นาฬิกาไม่ได้ราคาสูงด้วยความบังเอิญว่าถูกใจใคร แต่นาฬิกาถูกสร้างมาเพื่อให้แตกต่างและมีคุณค่าด้วยผู้มีฝีมืออย่างแท้จริง หลังจากนั้นถ้าเหล่านักสะสมหรือ AP Lover ทั้งหลายพบนาฬิกาแปดเหลี่ยมรุ่นใดที่มีหน้าสีน้ำเงินที่ถือว่าเป็นสีพิเศษ และ/หรือมีสัญลักษณ์ “AP” ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาแล้ว จะถูกจับจองหายวับทันที สมกับประโยคที่ Genta กล่าวถึงนาฬิกาเรือนนี้ไว้ว่า “The Royal Oak was the masterpiece of my career” จริงๆ ครับ
- https://www.timeandwatches.com/p/history-of-audemars-piguet-royal-oak.html
- https://www.dayandnightmagazine.com/audemars-piguet-flying-tourbillon-chronograph/
- https://www.dayandnightmagazine.com/audemars-piguet-flying-tourbillon-chronograph/